ปี 2565 นี้ เป็นโอกาสพิเศษอย่างยิ่งสำหรับบริษัทฯ ในการดำเนินงานครบรอบ 50 ปี คณะกรรมการบริษัทมียินดีที่ บริษัทฯ ได้มีส่วนร่วมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศให้เจริญเติบโตเคียงคู่ไปด้วยกัน ผ่านแนวปฏิบัติที่บริษัทฯ ยึดถือสำคัญที่ว่า “คนดี สินค้าดี สังคมดี” สร้างคนดีมีคุณธรรม และสนับสนุนการผลิตสินค้าและบริการที่ดีเพื่ออยู่เคียงคู่สังคมไทยไปอย่างยั่งยืน ในโอกาสพิเศษนี้ คณะกรรมการบริษัท ขอขอบคุณ ผู้บริหารและพนักงาน ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ สถาบันการเงิน ผู้ถือหุ้นกู้ ผู้ถือหุ้น รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียทุกท่าน ที่มอบความไว้วางใจและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทด้วยดีเสมอมาท่ามกลางความท้าทายของการดำเนินธุรกิจซึ่งเป็นผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพของประชาชนทั่วโลก ทั้งยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal คณะกรรมการบริษัทตระหนักดีถึงสถานการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังรอบคอบ มีความยืดหยุ่นเพื่อปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

ประธานกรรมการบริษัท

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา

ประธานกรรมการบริหาร

 ไปอย่างทันท่วงที รวมถึงยึดมั่นในการกำกับดูแลกิจการที่ดีภายใต้แนวคิด “Success with Synergy and Sharing” ทำให้ในปีที่ผ่านมาเราสามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ดีต่อเนื่อง โดยในปี 2564 บริษัทมีรายได้ 6,764 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 1,558 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 30 และกำไรสุทธิ 3,501 บาท เติบโตจากปีก่อน 1,195 บาท หรือเติบโตร้อยละ 52

 บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสีย โดยบริษัทฯ ได้รับผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ประจำปี 2564 ในระดับ “ดีเลิศ” ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 จากการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2564 โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ผลการประเมินดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินกิจการภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาโดยตลอด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรโดยบริษัททริสเรทติ้ง จำกัด ในระดับ AA แนวโน้มอันดับเครดิตคงที่ ติดต่อกัน 8 ปี นับตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อฐานะการเงินของบริษัท

 ในด้านการพัฒนาสวนอุตสาหกรรม บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และชุมชนโดยรอบ โดยในปีที่ผ่านมานับเป็นความภาคภูมิใจยิ่งของบริษัท เนื่องจากสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ศรีราชาและกบินทร์บุรี ได้รับรางวัล “เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town)” หรือเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 5 Happiness ซึ่งเป็นระดับสูงสุด แสดงถึงความตั้งใจอย่างยิ่งของบริษัท ในการเชื่อมโยงและพัฒนาสวนอุตสาหกรรม กลุ่มโรงงาน ผู้ประกอบการ หน่วยงานท้องถิ่นและชุมชนโดยรอบ ภายใต้การกำกับดูแลสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

 ในปี 2564 บริษัทฯ มีการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจเดิมที่มีศักยภาพ และธุรกิจที่สนับสนุนธุรกิจเดิม นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในด้าน Mega Trends หรือ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลกซึ่งทำให้เกิดผลกระทบและเกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ จึงขยายการลงทุนไปในธุรกิจใหม่ที่ตอบรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เช่น การลงทุนในบริษัทผลิตดิจิทัลคอนเทนต์และสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล การลงทุนในบริษัทส่งเสริมเทคโนโลยีสุขภาพ และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) เป็นต้น ภายใต้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมการบริหารงานของบริษัท ให้สอดรับกับทุกสถานการณ์รวมถึงการให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมบุคลากรเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ก้าวต่อจากนี้ไป บริษัทฯ พร้อมเผชิญกับความท้าทายและมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนสู่สังคมไทยต่อไป