นโยบายและภาพรวมการประกอบธุรกิจ
บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) เป็นบริษัทในกลุ่มสหพัฒน์ ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2515 ในนามบริษัท สหพัฒนาอินเวสเมนต์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 6 ล้านบาท ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 582,923,188 บาท ทุนที่เรียกชำระแล้ว 571,890,666 บาท (ณ 31 ธันวาคม 2562) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อประกอบธุรกิจการลงทุนในหุ้นบริษัทต่างๆ และการพัฒนาสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ โดยบริษัทฯ ได้นำกิจการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2520 ภายใต้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SPI” ต่อมาในปี 2527 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด โดยได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2537
ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน
582,923,188 บาท
ทุนที่เรียกชำระแล้ว
571,890,666 บาท
2564
2563
2562
2561
2560
2559
2558
2557
2537
2532
2527
2520
2517
2515
บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนโดยการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจที่บริษัทฯ ลงทุนอยู่เดิม โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงาน ที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนที่ดี อีกทั้งยังคงมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ในธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อบริหารและจัดการความเสี่ยง ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเน้นการลงทุนที่มองว่าสามารถเอื้อประโยชน์ (Synergy) และส่งเสริมกลุ่มธุรกิจในกลุ่มสหพัฒน์ เช่น บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่าย กาวอุตสาหกรรมและฉลากที่มีกาวในตัว บริษัท ออกซิเจน แอสเซ็ท จำกัด ประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ บริษัท ฮิวแมนิก้า อีอีซี จำกัด ประกอบธุรกิจบริการระบบบริหารงานทรัพยากรบุคคลและทรัพยากรองค์กร รวมทั้ง ให้บริการจัดทำเงินเดือนและจัดทำบัญชี เป็นต้น
ได้รับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี ในระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ” (Excellent) ประจำปี 2564 จากสมาคมส่งเสริม สถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors : IOD)
จัดทำแผนกลยุทธ์ด้านบุคลากร ภายใต้ค่านิยมองค์กร “S-P-I” (Corporate Core Value “S-P-I”) นโยบายกลุ่มสหพัฒน์ “คนดี สินค้าดี สังคมดี” และปรัชญาคุณธรรมของ ดร.เทียม โชควัฒนา โดยมุ่งเน้น 4 เสาหลัก คือ บุคลากร (People) ความผูกพัน (Engagement) ระบบและขั้นตอน (System and Process) และผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท (Stakeholders)
บริษัทฯ ได้เสนอขายและออกหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2563 จำนวนทั้งสิ้น 4 ชุด มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และ/หรือ ใช้สำหรับการลงทุน และ/หรือ ชำระคืนเงินกู้ของบริษัท โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมของหุ้นกู้ของบริษัท ได้ที่ https://www.spi.co.th/th/investor-relations/debenture-information/debentures
บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ กับพันธมิตรที่แข็งแกร่งในหลากหลายธุรกิจ แม้ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 โดยเน้นการร่วมทุนที่มองว่าสามารถเอื้อประโยชน์ (Synergy) และส่งเสริมกลุ่มธุรกิจในเครือสหพัฒน์ เช่น บริษัท เอ็กซ์อีที จำกัด ประกอบธุรกิจโรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ, บริษัท สห แอดวานซ์ เน็ทเวอร์ค จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการระบบเครือข่ายพื้นฐานเส้นใยแก้วนำแสง เป็นต้น
ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2563จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ได้รับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี ในระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ” (Excellent) ประจำปี 2563 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors : IOD)
ได้รับผลการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 บริษัทฯ ได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน เป็นปีที่ 12 ติดต่อกัน
บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน จำนวน 582,923,188.- บาท ทุนชำระแล้ว จำนวน 571,890,666.- บาท จากการที่มีผู้ถือหุ้นกู้ได้ใช้สิทธิแปลงสภาพ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 คงเหลือยอดหุ้นกู้แปลงสภาพ มูลค่า 1,908,000.- บาท
บริษัทฯ ได้มีการขยายการร่วมทุนใหม่ๆ ที่บริษัทฯ มองว่าสามารถเอื้อประโยชน์ (Synergy) และ/หรือ มีศักยภาพ ที่จะต่อยอดทางธุรกิจกับกลุ่มธุรกิจในเครือสหพัฒน์ เช่น บริษัท สห แคปปิตอล ทาวเวอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ดองกิ ทองหล่อ จำกัด ประกอบธุรกิจ จำหน่ายร้านค้าปลีก เพื่อกระจายการลงทุนและสร้างความแข็งแกร่งให้กับการลงทุนของบริษัทยิ่งขึ้น
ได้ผ่านการรับรองการต่ออายุการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562
ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 98 บริษัท ที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2562 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ๆ ที่บริษัทฯ มองว่าสามารถเอื้อประโยชน์ (Synergy) และ/หรือ มีศักยภาพที่จะต่อยอดทางธุรกิจกับกลุ่มธุรกิจในเครือสหพัฒน์ เช่น บริษัท อิมแพค โซล่าร์ จำกัด ประกอบธุรกิจพลังงานทดแทน และ บริษัท สห โคเมเฮียว จำกัด ประกอบธุรกิจ จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง เพื่อกระจายการลงทุนและสร้างความแข็งแกร่งให้กับการลงทุนของบริษัทยิ่งขึ้น
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพิ่มขึ้นจากเดิม 494,034,300.- บาท เป็น 571,515,007.- บาท จากการที่มีผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพแจ้งความจำนงใช้สิทธิแปลงสภาพทั้ง 2 ครั้ง มีมูลค่ารวม 3,486,635,000.- บาท ซึ่งได้แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัท จำนวน 77,480,707 หุ้น และคงเหลือยอดหุ้นกู้แปลงสภาพ มูลค่า 18,813,000.- บาท
รับโอนกิจการทั้งหมดของ บริษัท เพรซิเดนท์โฮลดิ้ง จำกัด และ การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน บริษัท เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) จากการรับโอนกิจการดังกล่าว บริษัทฯ ได้รับรางวัล “BEST THAILAND DEAL” จากนิตยสาร FinanceAsia
ออกหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งที่ 1/2560 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 ซึ่งมีข้อกำหนดบังคับแปลงสภาพโดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,505 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.7% ต่อปี และบริษัทฯ ได้รับรางวัล "Most Innovative Deal" จากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2559 อนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่าเงินต้นรวมของหุ้นกู้ ไม่เกิน 15,000 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 บริษัทฯ ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ จานวน 2 ชุด มูลค่ารวม จำนวน 2,000 ล้านบาท
ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2559
คณะกรรมการบริษัทมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการธรรมาภิบาลและบริหารความเสี่ยง
คณะกรรมการธรรมาภิบาลและบริหารความเสี่ยง แต่งตั้งคณะทางานด้านธรรมาภิบาลและต่อต้านการคอร์รัปชัน คณะทางานด้านการบริหารความเสี่ยง และคณะทางานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลและบริหารความเสี่ยง
พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบศูนย์การค้า (Community Mall) โดยใช้ชื่อ J-Park Si Racha Nihon Mura
ธุรกิจโรงแรม เคบีเอสซี ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ ตาบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นที่พักที่ตั้งอยู่ในสนามกอล์ฟ
วันที่ 9 พฤษภาคม 2537 ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน จำกัด
ก่อตั้งโครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ กบินทร์บุรี และโครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ลำพูน
เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 800,000,000 บาท
เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ก่อตั้งโครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ศรีราชา ณ จังหวัดชลบุรี
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2515 ในนาม บริษัท สหพัฒนาอินเวสเมนต์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 6,000,000 บาท